คืนวันศุกร์ คุณดื่มเบียร์อยู่บนระเบียง แสงไฟสลับเงาคนจากตึกข้างๆ ก็ทำให้คุณอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นใคร แสงสลัวจากคู่รักที่จิบไวน์ฉลองวันครบรอบ แสงอุ่นพร้อมเสียงเฮฮาจากโต๊ะกินข้าวของพ่อแม่ลูก
ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น คุณรู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก คุณไม่คิดถึงบ้าน เพราะเลือกเดินออกมาเอง คุณไม่คิดถึงคนรัก เพราะคุณเลิกขอแฟนจากวัดแขกนานแล้ว แล้วฉันเลือกอยู่คนเดียวหรอ? ถ้าเลือกได้ฉันคงไม่ซมซานแบบนี้หรอก
คุณจินตนาการถึงครอบครัวเล็กๆ ไม่มี พ่อ-แม่ หรือ สามี-ภรรยา มีแต่เพื่อนฝูงที่เป็นมากกว่าพี่น้อง ดื่มด้วยกันในวันศุกร์ และพร้อมห้ามเมื่อคุณหยิบโทรศัพท์โทรไปหาแฟนเก่า ไม่แน่คุณอาจต้องการ ‘ครอบครัวที่คุณเลือกเอง’ ก็ได้
Chosen Family หรือ ครอบครัวที่คุณเลือกเอง คือจุดตัดและความท้าทายในสังคมที่โยนผู้คนไปมาระหว่างกล่องครอบครัวเดี่ยวที่กำลังหดหาย กับกล่องปัจเจก ที่คนแข็งแกร่งแค่ไหนก็แตกสลายได้ มันคือครอบครัวที่ไม่ได้สัมพันธ์กันจากสายเลือด การแต่งงาน หรือมรดก แต่สัมพันธ์กันผ่านความรู้สึก ความไว้ใจ และความช่วยเหลือ ที่พวกเขาไม่เคยได้รับจากในครอบครัวสายเลือด แต่สามารถรับ (และให้) จากคนในชุมชนใหม่นี้ได้
Chosen Family มีที่มาจากช่วงทศวรรษ 1980 ของสหรัฐอเมริกา ที่ผู้มีอัตลักษณ์ เกย์ เลสเบี้ยน ไบเซ็กช่วล และคนข้ามเพศ ถูกไล่ออกจากครอบครัวคริสเตียนจารีตที่เชื่อในการเลี้ยงบุตรตรงเพศกำเนิด (หญิง-ชาย) บวกกับการแพร่ระบาดโรค HIV ก็ทำให้พวกเขาถูกตีตรา และกีดกันออกจากสังคม รวมถึงเผชิญหน้ากับโรคร้ายด้วยตัวเอง พวกเขาบางส่วนกลายเป็นคนจนเมืองและคนไร้บ้าน ทำอาชีพที่มีรายได้ต่ำ ไร้ความปลอดภัย และไร้ความมั่นคง พวกเขาต้องแบกรับค่าเช่าห้อง ค่ารักษาพยาบาล และความโดดเดี่ยวเมื่อตัดขาดจากครอบครัว ความยากลำบากที่เผชิญทำให้พวกเขารวมกันเป็น ‘ครอบครัว’ หรือ ‘บ้าน’ ที่ไม่เพียงแต่แบ่งปันที่อยู่อาศัย แต่ยังช่วยเหลือและดูแลซึ่งกันและกัน
การดูแลในชุมชน Chosen Family ของกลุ่ม LGBT คือการแบ่งปันทรัพยากรและความช่วยเหลือที่แต่ละคนในครอบครัวพอจะให้ได้ ในด้านทรัพยากร พวกเขาอาจลงขันจากเงินที่พวกเขาหามาได้ ในการปรับปรุงที่อยู่อาศัย ซื้อข้าวของเครื่องใช้ ระวังภัยจากผู้ไม่หวังดี รวมถึงความต้องการทางการแพทย์ พวกเขายังดูแลจิตใจ ในฐานะผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์เช่นเดียวกันมา และคนในครอบครัว พวกเขาพร้อมรับฟังปัญหา ให้คำแนะนำ โดยเฉพาะกับ LGBT วัยรุ่น หรือผู้เข้าบ้านใหม่ Chosen Family จึงไม่มีการแบ่งพ่อ-แม่ตามเพศสภาพหรือเพศวิถี แต่อาจมีผู้ปกครอง หรือ ‘แม่’ ผู้ดูแลภาพรวมและโอบอุ้ม ‘ลูกๆ’ ในบ้านเอาไว้
แม้จะมีอายุนานถึง 40 ปี แต่ Chosen Family ก็ยังเป็นความสัมพันธ์ทางเลือกแบบหนึ่งที่โอบอุ้มการแตกสลายของครอบครัวเดี่ยว (Nucleur Family) และปัจเจก (Individual) ได้ทันกาล วลีทองของเสรีนิยมใหม่อย่าง “ไม่มีอีกแล้วคำว่า ‘สังคม’ มีแต่ ‘ครอบครัว (เดี่ยว)’ และ ‘ปัจเจก’ เท่านั้น” ที่บ่งบอกความตายของชุมชนในฐานะความจริงในยุคเสรีนิยมใหม่ แต่ด้านกลับของความจริงเหล่านี้ คือความขัดแย้งภายในสองหน่วยหลัง
ครอบครัวเดี่ยว หรือครอบครัวที่ประกอบด้วยพ่อ-แม่-ลูก ถูกคาดหวังให้ผลิตและกล่อมเกลา ‘อนาคตของชาติ’ ให้กลายเป็นแรงงานที่ดีของนายทุนและรัฐผู้เก็บภาษี มีแม่เป็นผู้อุ้ม คลอด และเลี้ยงดู ส่วนพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัวและเจ้าของนามสกุล ลูกที่โตมาต้องตอบแทนบุญคุณ และสืบต่อวงศ์ตระกูล ในคราบจักรกลหนึ่งของระบบทุนนิยมโลก หน้าตาที่แท้จริงของครอบครัวจึงไม่ใช่ความอบอุ่น แต่คือการเปลี่ยนบทบาทและหน้าที่ของพ่อ แม่ ลูก ที่มีความสัมพันธ์เชิงอำนาจอันไม่เท่าเทียม
แม้ว่าใครหลายคนจะมองว่าสิ่งที่ผูกพันครอบครัวเดี่ยวไว้คือความรัก แต่ความรักมากับอุดมการณ์ของครอบครัวเดี่ยวมักจะมาจากการบังคับ เช่น คุณต้องรักเขาเพราะเขาเป็นพ่อแม่คุณ หรือไม่ก็มาจากความคาดหวังว่า ‘พ่อแม่ที่ดี’ หรือ ‘ลูกที่ดี’ ควรจะรักกันและกัน เพื่อให้ระบบครอบครัวอยู่ต่อไป มากกว่าเป็นความรักที่บังเกิดขึ้นมาในใจของแต่ละคน Chosen Family จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของครอบครัวที่ความรักไม่ได้มาจากเงื่อนไขในเชิงกรรมพันธ์ุ ศีลธรรม หรือเศรษฐกิจ แต่มาจากความผูกพันธ์และไว้เนื้อเชื่อใจของคนในชุมชน
กระแสการเรียกร้องค่าแรงงานบ้าน การรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงในครอบครัว เพจไม่อยากกลับบ้าน หรือแม้แต่การแต่งงาน หรืออัตราการมีลูกที่ลดลง คือรอยร้าวเล็กๆ ของครอบครัวเดี่ยวที่กำลังสั่นคลอน เพราะครอบครัวเดี่ยวมีแนวคิดเรื่องเพศสภาพเป็นฐาน
Chosen Family ท้าทายแนวคิดเรื่องครอบครัวสายเลือด พ่อและแม่ที่ปฏิสนธิและคลอดบุตรออกมา อาจมิใช่ผู้ที่เข้าใจหรือผูกพันกับบุตรเสมอไป ความสัมพันธ์ทางครอบครัวที่วางอยู่บนความกตัญญูและบุญคุณอาจสร้างความอึดอัดในการยึดยื้อความสัมพันธ์ของบุพการีและบุตรมากกว่าจะทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น คู่รักหลายคู่ยังมีแนวโน้มไม่มีบุตร หรือไม่แต่งงาน เมื่อครอบครัวเดี่ยวกำลังตายลง แต่ความต้องการ ‘ครอบครัว’ ยังอยู่ Chosen Family จึงเป็นทางเลือกใหม่ของครอบครัวในอนาคต
นอกจาก Chosen Family จะท้าทายครอบครัวเดี่ยวที่อยู่บนฐานความสัมพันธ์ทางสายเลือดแล้ว ยังท้าทายแนวคิดที่ครอบครัววางอยู่บนเพศสภาวะแบบสองเพศ หรือเป็นความสัมพันธ์ที่หญิงและชายรักต่างเพศแต่งงาน และมีบุตรร่วมกัน และบทบาทในครอบครัววางอยู่บนบทบาททางเพศ (ผู้ชายเป็นผู้นำครอบครัว ผู้หญิงทำงานบ้านและเลี้ยงลูก)
เนื่องด้วย Chosen Family ก่อกำเนิดมาจากการรวมตัวกันของกลุ่ม LGBT การดูแลเอาใจใส่สมาชิกครอบครัวไม่ได้ขึ้นอยู่กับบทบาททางเพศ แต่มาจากทรัพยากรทางวัตถุ และทางใจที่แต่ละคนสามารถแบ่งปันและสนับสนุนสมาชิกคนอื่นๆ Chose Family ของกลุ่ม LBGTQ จึงเป็นการสร้างการเมืองของการดูแลเอาใจใส่ ที่ผู้คนสามารถดูแลสมาชิกในครอบครัวตนเองได้โดยไม่ยึดติดกับอัตลักษณ์ทางเพศของตน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า chosen family จะสร้างขึ้นเพื่อซัพพอร์ตกลุ่ม LGBT แต่ครอบครัวรูปแบบนี้ก็มีความสำคัญกับคนอื่นๆ และทุกคนสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ ในรายการทีวีโชว์ Queer Eye ซีซั่น 7 ที่กลุ่มผู้ดำเนินรายการ Fab 5 ได้เดินทางไปยังสมาคมนักศึกษาชายแลมป์ดา ไค อัลฟ่า มหาวิทยาลัยนิวออร์ลีนส์ ที่สมาชิกหลายคนขาดการติดต่อ หรือขาดการไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบระหว่างช่วงล็อคดาวน์ พวกเขาได้จัดกิจกรรมให้สมาชิกสมาคมแต่ละคนได้เล่าถึงช่วงชีวิตอันยากลำบากในช่วงเวลาที่ผ่านมา หลายคนเป็นห่วงเพื่อนๆ ของเขามากและเสียใจที่ไม่มีโอกาสได้ช่วยเหลือเพื่อนเลย การสร้างบรรยากาศแบบ Chosen Family สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้ชายสามารถแสดงความรู้สึก และความอ่อนแอของตน รวมทั้งเปิดโอกาสให้สมาชิกได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และสร้างความสัมพันธ์ที่ผูกโยงกันเชิงความรู้สึกมากขึ้น